วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Sony MDR-HW700DS

Sony MDR-HW700DS













วันนี้ได้มีหูฟัง Multimedia รุ่นใหม่ออกมา ที่ Upgrade มาจาก MDR-DS7500 

เป็นหูฟัง Wireless ที่รองรับเสียงได้ทุกอย่าง Dolby Digital , DTS , DTS-HD TrueHD หรือ Lossless (LPCM) และรองรับ 24bit/192kHz และ ระบบ3D 
รวมทั้งยังรองรับระบบใหม่ 4K (Ultra HD)

เช่นเดิม Spec ต่างๆ คล้าย MDR-DS7500 มาก แต่ก็มีจุด
เปลี่ยนแปลง ไปบ้าง ทั้งรูปร่าง และ Function


















Spec คร่าวๆ ตามนี้

  • 9.1 Channel Wireless Surround Sound with VPT (Virtual Phones Technology)
  • New DSP Platform with 2.4 GFLOPS of computng power
  • Matrix Decoder supports DTS Neo:X 9.1 & Dolby Prologic IIz
  • Supports the following formats: Dolby TrueHD, DTS, MPEG-2 AAC, Linear PCM 2ch/5.1ch/7.1ch, Dolby Digital Plus, Dolby Digital, DTS-HD Master Audio, DTS-HD High Resolution Audio, DTS Express, DTS Digital Surround, DTS-ES , DTS 96/24
  • 50mm Driver with a frequency response of 5Hz-25,000Hz
  • Built in Li-Ion rechargeable battery with USB charger
  • Dual band 5GHz band offers less interference than 2.4GHz used with previous models
  • HDMI Compatible devices with maximum 192Khz/24bit can be input into the MDR-HW700DS
  • Supports 4K pass-through as well as other HDMI signals
  • On Screen Menu Display
  • Auto Return Audio Channel (ARC) when connected to a capable TV, the digital return channel will be transfered to the unit without the need for additional HDMI or optical audio cables
  • Auto-Power Off
  • A Remote Control, based on radio signals and not the traditional infared system allows control of the device through obstacles such as a wall or door
  • Sony MDR-HW700 headphones can be added allowing more than one person to use the unit at the same time
  • DC12V ( included AC adapter use)

การต่ออุปกรณ์ต่างๆ ทั้งเครื่องเกมส์ เครื่องเล่น Blu-ray หรือ คอมพิวเตอร์ 
ผมขอไม่พูดถึงนะครับเพราะ ดู review ของ รุ่น MDR-DS7500 ได้เลยครับ ไม่ต่างกัน

ความแตกต่างระหว่าง 2 รุ่นนี้คือ
- จะมี ปุ่ม Menu ที่หูฟังให้เราปรับ option พวก เพิ่มเสียง center และ bass และอื่นๆ อีก
หรือ โชว์ว่าตอนนี้เรากำลังเล่นเสียงแบบไหนอยู่ เช่น DTS-HD TrueHD ประมาณนี้ครับ 

พอกดที่ปุ่ม Menu ปุ๊ป ก็จะมี ภาพ Option
ซ้อนออกมาทาง จอ TV ให้เลย สามารถ เลื่อน ไปซ้าย หรือ ขวา เพื่อเลือกได้ ก็สะดวกดีครับ






- เมื่อเวลาแบตหมด สามารถ ชาร์จไฟจาก usb และ สามารถเล่นไปพร้อมชาร์จไปได้ด้วย
ซึ่ง รุ่น MDR-DS7500 ต้องชาร์จกับหม้อแปลง ขณะชาร์จไม่สามารถใช้งานได้

- สามารถจำลองเสียง ให้เป็น 9.1 Channel และ มี mode DTS Neo:X 9.1 เพิ่มขึ้นมา











- รองรับ TV 4K หรือ UltraHD ครับ สามารถ bypass ภาพระดับ 4K
- มี ส่งสัญญาณ Dual band 5GHz ที่เค้าว่ากันว่า ดีกว่าตัวเก่าทะลุผ่านสิ่งกีดขวาง
ได้ดีกว่า และ ไม่ตีกับสัญญาณกวนในช่วงความถี่ 2.4GHz (อันนี้พิมพ์ตามเค้าว่ามานะครับ)
เพราะผมใช้งานไม่ไกลจากตัวรับ

ที่แตกต่างกันก็น่าจะมีประมาณนี้ครับ เท่าที่ได้ลองใช้งานดู

มาพูดถึงเรื่องเสียงกันบ้างครับ
เรื่องฟังเพลงผมว่า พอๆกันกับ MDR-DS7500 ครับ รู้สึกไม่ค่อยต่างกันมาก
แต่ถ้าดูหนังและเล่นเกมส์นี่ ผมบอกได้เลยว่าเสียงต่างกัน ที่ผมรู้สึกได้ ตามนี้ครับ

- เสียง center ดีขึ้นมาก เสียงไม่ก้องเหมือน MDR-DS7500
- เสียงเบส อาจจะเบาลงเล็กน้อย แต่ได้เสียงที่ แน่นและลึก มาแทน 
- เสียง surround ตัวนี้ก็ทำได้ดีกว่า รอบทิศทางชัดเจนครับ ลอง ทั้งดูหนัง
และ เล่นเกมส์ อาจเป็นเพราะ จำลองลำโพง มาเพิ่มทั้ง คู่หน้า และ คู่หลัง ครับ

หูฟังตัวนี้ ผมบอกได้เลยว่าถ้า ซื้อมาดูหนัง หรือ เล่นเกมส์นี่เสียง เท่าชุดโฮม ดีๆ ชุดนึงเลยครับ ถ้าใครเคยฟัง MDR-DS7500 ว่าดีแล้ว มาฟังตัวนี้ยังไงก็ชอบกว่า
ตัวเก่า แน่นอน เสียงมีมิติ ใกล้ ไกล และ ล้อมรอบเราดีว่าตัวเก่าครับ

ข้อเสียของตัวนี้ ก็คงเหมือนตัว MDR-DS7500 ครับ
คือ แพงครับ


สนใจ Sony MDR-HW700DS  

ติดต่อคุณ vorsss จาก เวป dvdgameonline 

LINE : vorsss

โทร 085-995-6444
หรือ mail : kikydelivery@gmail.com














วันอังคารที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Sony MDR-DS7500

















เป็นหูฟัง Wireless ที่ครอบคลุม ทุกอย่าง ทั้งดูหนัง เล่นเกมส์ ฟังเพลง ตัวเดียวจบแน่นอน
เพราะ รองรับเสียงได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Dolby Digital , DTS หรือแม้จะเป็น
เสียงแบบ HD ทั้ง DTS-HD TrueHD หรือ Lossless (LPCM) ที่รองรับ ถึง 7.1 ch
และรองรับ 24bit/192kHz และ รองรับ ระบบ3D

Spec คร่าวๆ ตามนี้
Driver unit: 50mm
Frequency Response: 5-25,000 Hz
Impedance: 24 Ω
Power: Built-in lithium ion battery
Battery life: 18 hours
Processor / Transmitter: Controller DSSS
Effect Mode: OFF / Cinema / Game / Voice (Stereo)
Decoder: Dolby TrueHD, Dolby Digital Plus, Dolby Digital, Dolby Pro Logic IIx, DTS-HD Master Audio, DTS-HD High Resolution Audio, DTS 96/24, DTS-ES, DTS, DTS Neo: 6, MPEG-2 AAC, LPCM 2ch/5.1ch/7.1ch, Dolby Pro Logic IIz
Reach: Up to approximately 30m
Audio output: HDMI × 1, × 1 optical
Input terminal: HDMI × 3, × 1 rectangular light, stereo pin jack × 1


สำหรับการใช้งานจริง ผมใช้ต่อ ทั้ง computer , Ps3 , xbox360 และ เครื่องเล่น blu-ray
แต่สำหรับ ds7500 นั้นมีให้ต่อช่อง HDMI มา 3 ช่อง ซึ่งผมไม่พอใช้ จะใช้แบบ ถอดเข้า
ถอดออก ก็กลัวช่องต่อจะพังเอา เลยเอาตัวนี้มาต่อเพิ่มครับ


เพิ่มมาอีก 5 ช่อง HDMI ตัวเพิ่มช่องต่อ HDMI ตัวนี้
แนะนำเลยครับถ้าจะใช้เพิ่ม HDMI เพราะเมื่อเราเปิด
เครื่องอะไร เครื่องก็จะ detect ให้เองแล้วเปลี่ยนให้ อัตโนมัติเลย สะดวกดี


ตอนนี้ก็ต่อได้ครบหมด ทั้ง 4 เครื่องครับ








การต่อเครื่องเล่นต่างๆ ก็ต่อปกติ ไม่มีอะไรวุ่นวาย ไม่ต้อง set อะไรเลย มาถึงก็
ต่อ สาย HDMI จาก เครื่องเล่นต่างๆ ที่เรามีเข้าไปตามช่อง HDMI In เลยครับ และ
ก็เอาสาย HDMI อีกเส้น มาต่อช่อง HDMI Out จาก ds7500 เข้าจอได้เลย
เปิดเครื่อง ก็ใช้ได้เลย ps3 ก็เข้า setting เข้า audio ไปตั้งค่า เครื่อง ps3 ก็จะ detect ให้
หมด เสียงก็ออกตามปกติ ส่วน xbox360 กับเครื่องเล่น blu-ray นั้นไม่ต้องทำอะไรเพิ่มก็
เล่นได้ตามปกติ ตัว ds7500 ก็จะ detect เสียงว่าเป็นเสียงแบบไหน ก็จะมีสัญญาลักษณ์
ขึ้นมาที่ตัว ds7500


คราวนี้มาถึงการต่อกับ Computer ก็ต่อ HDMI เหมือนเครื่องอื่นๆ จาก cardจอ เข้า ds7500 ได้เลย computer ก็จะ detect เจอตามรูปเลยครับ













จากนั้นก็ทดสอบเสียงดูครับว่าออก
ได้ครบ 7.1 รึป่าว








การดูหนังผ่านคอม ก็ใช้พวกโปรแกรม Powerdvd หรือ TotalMedia Theatre แล้ว setting
Bitstream ให้เสียง HD ผ่านคอมไป ds7500 ได้เลย ส่วนพวกโปรแกรมอื่นๆ ก็ set คล้ายๆกันคือให้ Bitstream ก็จะฟังเสียง HD พวก DTS-HD TrueHD ได้เลย ส่วนตัวผมใช้
Media player classic ธรรมดาใส่ filter Lav แล้ว set ปล่อยเสียง Bitstream ครับ

มาถึงการฟังเพลง ตอนแรกได้มาก็ลองเปิดฟัง ดูเสียงออกจะธรรมดามาก ผมก็เลย
ลองทำ แบบ Bit Perfect (วิธีset search google ดูครับ อาจดูซับซ้อนแต่พอทำกับง่ายนิดเดียว) กับ Foobar เสียงดีขึ้นมากๆ เลยครับ
แต่สุดท้ายมาจบที่ โปรแกรม JRiver Media Center 18 เพราะมี Bit Perfect ในตัว ผมปรับ eq นิดหน่อย กับเพิ่ม dsp subwoofer 8" ก็ให้เสียงดีขึ้นมาอีก ตอนนี้พอใจมากครับ

กลับมาพูดถึงการดูหนัง กับเครื่องเล่น หรือ คอมถ้าชอบเสียงเบส ลอง Effect
เป็น Cinema จะให้พลังเบส แน่นและลึก สะเทือนไปถึงติ่งหูได้เลย แถมยังสามารถปรับ
เพิ่มเสียงเบสได้โดยตรงที่ตัวหูฟังของ ds7500 ให้หนักขึ้นไปได้อีก 5 ระดับ

การเล่นเกมส์ ผมก็ได้เล่นทั้ง เกมส์คอม เกมส์ Ps3 และ xbox360 แล้วปรับ Effect ที่
ds7500 เป็น mode Game เสียง surround และ เสียงเบสกระหึ่ม ดีมากครับเสียงสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็ให้เสียงดีใช้ได้เลยครับและ ก็เหมือนกับ โหมด Cinema ที่สามารถปรับเบสขึ้นไปได้อีก

ส่วนระบบเสียงก็ขึ้นอยู่กับเกมส์
xbox360 เกมส์ทั้งหมด เป็นระบบ Dolby Digital 5.1

Ps3 ก็จะเป็น Dolby Digital 5.1 หรือ DTS แต่ว่า Ps3 จะถอดให้ออกมาเป็น LPCM 5.1
ดังนั้น ตัว ds7500 ก็จะไม่โชว่สถานะ ของเสียง ถ้าใครอยากให้ ตัว ds7500 โชว่เป็น
Dolby Digital หรือ DTS นั้น ก็ต้องไปตั้งที่ setting ของ audio ติ๊ก พวก LPCM ออกให้หมด ก็จะมีไฟสถานะโชว่

คือไม่ต้องการให้ Ps3 ถอดรหัสเสียง Dolby Digital หรือ DTS
ให้ ส่งสัญญาเสียงตรงๆ มาที่ ds7500 เลย ให้ ds7500 เป็นตัวถอดรหัสเสียงให้แทนครับ






การรองรับ ระบบ 3D
เมื่อเราต่อ ps3 หรือ เครื่องเล่น blu-ray 3D HDMI In เข้า ds7500
แล้วต่อ HDMI Out ออกไปที่ TV 3D ก็จะสามารถเล่น 3D ได้ ก็เท่านี้แหล่ะครับ
สำหรับคนมี TV 3D ตัวหูฟังมีช่องด้านข้างมาสำหรับสอดขาแว่น 3D ให้ด้วย

เรื่องการใช้งานทั่วๆ ไป
- หูฟังตัวนี้สามารถอยู่ห่างจากตัวรับได้ไกล 30 เมตร (ยังไม่เคยลองไกลขนานนั้น แต่เดิน
ทั่วบ้านระยะ 10-15เมตร) ก็ยังมีเสียงปกติ

- ชาร์จไฟครั้งนึง อยู่ได้ประมาก 18 ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จนาน ประมาณ 3ชั่วโมง
เสียดายที่ตอนชาร์จ ดันใช้งานไม่ได้

- เมื่อถอดหูฟังออก ตัวหูฟังจะดับเอง อัตโนมัติและ เมื่อใส่หูฟังกลับ ตัวหูฟังก็จะเปิดเอง
ส่วนตัวกล่องถอดรหัสเสียงก็เหมือนกันถ้าไม่มีเสียงสักพักก็จะดับเอง พอใส่หูฟังก็จะเปิดเอง
อัตโนมัติ


- หูฟังตัวนี้นิ่ม ใส่สบายไม่หนีบหูเลย เวลาก้มหรือเงย เยอะๆ ต้องเอามือจับไว้หน่อย
ไม่งั้นตกแน่










- มีปุ่มเลือกช่อง HDMI เลือก Effect เพิ่มเบส และ center กับที่ปรับเสียงอยู่ที่หูฟังเลย












จบแล้วครับสำหรับการ รีวิวหูฟังตัวนี้ ข้อเสียข้อเดียวก็คือเรื่องราคาครับ
ส่วนจะคุ้มค่าหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับคนใช้ครับ เหมาะสำหรับคนชอบเปิดเสียงดังๆ
ไม่รบกวนคนรอบข้าง ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ เหมือนมีชุด Home Theater
ชุดหย่อมๆ ไว้ใช้โดยไม่รบกวนใคร ไม่ต้องซื้อ แอมป์ 7.1 เพื่อถอดเสียง HD ไม่ต้อง
ซื้อลำโพง อีก 8 ตัว เพียงแค่ตัวเดียว ก็เล่นได้ครบหมดในตอนนี้
อีกอย่าง ประหยัดไฟ ได้มากครับ



สนใจ Sony MDR-DS7500 

ติดต่อคุณ vorsss จาก เวป dvdgameonline

LINE : vorsss

โทร 085-995-6444
หรือ mail : kikydelivery@gmail.com




วันศุกร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

SONY

HMZ-T2 3D Head-Mounted Display




















เป็นแว่นสวมหัว สำหรับดูหนัง หรือ เล่นเกมส์ (ส่วนตัว) พร้อมระบบ 3D ต่อได้ทุกอย่างที่ใช้ HDMI

เป็นรุ่นที่ 2 ที่พัฒนามาจาก HMZ-T1
หลายคนสงสัยว่า ต่างกันตรงไหนกับรุ่นก่อน

ข้อแตกต่างก็คือ
1. รุปร่างแตกต่างกันนิดหน่อย โดย HMZ-T1 จะมีหูฟังติดมากับตัวแว่นเลย
ส่วน HMZ-T2 จะมีหูฟังแบบ in ear แถมมาให้
สามารถ ถอดเปลี่ยนเป็น หูฟังรุ่นอื่น
เพื่อเสียงที่ดีขึ้นได้










2. น้ำหนัก HMZ-T2 จะเบากว่า ประมาณ 20% (330กรัม)
3. มี mode เพิ่มมาจาก รุ่นเก่า ปรับภาพ และ เสียงได้ทาง menu
และ เพิ่ม 24p True Cinema mode for Movies
และ Clear mode for gaming
4. แก้อาการโฟกัสของภาพ ให้ไม่มีอาการภาพเบลอ ทั่วทั้งจอ และตัวปรับเลนส์ของภาพ
สามารถแยกปรับ ได้อิสระ

การใช้งานเริ่มต้น
 



















เครื่องเล่นบางรุ่นสามารถ
ใช้ปุ่มเมนู ในการเลื่อน chapters
หรือกดหยุด และ เล่นได้















การใช้งานจริง จากประสบการณ์ กว่า 3 เดือน
ได้มาก็ลองดูหนังเลยครับ ขอบอกได้เลยว่าภาพคมชัดมาก ถึงแม้จะแสดงผลได้ 720P ก็ให้สีสันสวยงาม ฉากที่มีความมืดก็มืดสนิท ไม่มีแสงรั่วออกมา เหมือน LedTV น่าจะเป็นเพราะใช้จอภาพแบบ OLED เรื่องภาพถือว่าพอใจมาก ผมปรับเป็นโหมดNatural แค่นั้น

หลายคนคงอยากรู้ว่า ภาพที่ได้ใหญ่เท่าจอกี่นิ้ว ผมเองก็บอกไม่ถูกเอาเป็น
ว่า ลองกรอกตามาทาง ซ้าย สุด แล้ว กรอกตามาทางขวาสุดดู ขอบของจอจะเห็นสุดตาที่เรากรอกตาไปถึง ทั้ง 2 ด้านครับ
ด้าน 3D ให้ภาพลอย และ ลึกดีมากๆ ไม่มีเงาให้เห็นเลย และ สีสันความสว่าง เมื่อดู 2D ยังไง ดู 3D ก็สีสันและความสว่างก็เท่าเดิม อาการเวียนหัว และ ล้าสายตาก็น้อยลงกว่า ที่ผม
ดูจาก Ledtv (ผมใช้ Toshiba 55wl700) ผมว่าภาพดีกว่า TV ซะอีก

ส่วนเรื่องเสียงนั้น in ear ที่ให้มาถือว่าดีใช้ได้เลย ปรับ เสียงแหลม เสียงทุ้มสักหน่อย ก็ ok
ทั้งดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ มีเบสตูมตามใช้ได้ครับ แต่ถ้าพวกหูทองคงว่าธรรมดา ครับ

มาถึงการลองเล่นเกมส์ ผมปรับ โหมด Panel Drive Mode เป็น Clear เห็นว่าลดการ เบลอของภาพ เวลาเล่นเกมส์ แต่ภาพ จะมืดลงไปหน่อย เมื่อใช้ Mode Clear แต่เราก็สามารถเพิ่มความสว่างได้ เพราะโหมดของ movie และ เกมส์ ปรับแยกกันครับ
ก็ได้ลองเล่นเกมส์ ทั้ง ของ PS3 และ xbox360 ภาพที่ได้ก็เหมือนกับดูหนังครับ คมชัดดี
สีสันสดใส
มาถึงเล่นเกมส์ 3D ครับ ผมได้ลองเล่น GT5 เป็น 3D เหมือนเข้าไปขับอยู่ในรถเลย มีมิติ
ดีมากๆ และก็ เอาเกมส์ Uncharted 3 เปิด 3D อีกเหมือนกัน แรกๆ เล่นก็ว่า OK แต่พอสัก
ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นหล่ะ ครับ มึนมาก แทบอ้วก เกมส์นี้หมุนไปมาไวมาก เล่นแบบ 2D ปกติ
ดีกว่าครับ 3D น่าจะเหมาะกับ เกมส์ที่ฉาก หมุนไม่ไวมาก


มีเทคนิคนิดหน่อยสำหรับ ดูหนังหรือเล่นเกมส์ 3D 
ถ้าเครื่องเล่น blu-ray มี mode ปรับเกี่ยวกับหน้าจอที่เราใช้ว่า TV ที่เราใช้นั้น
ใหญ่กี่นิ้ว ให้ ปรับต่ำสุดดูครับ ภาพ 3D จะยิ่งมีมิติเพิ่มเข้าไปอีก
ใน PS3 กับ XBOX360 มีให้ปรับอยู่แล้ว ลองปรับดูครับ 
ยิ่งปรับต่ำสุด 10นิ้วนี่ยิ่ง มีมิติมากขึ้น แต่บางคนไม่ชินก็อาจจะมากเกินไป ทำให้มึนได้ง่าย ยังไงก็ลองปรับ ตามที่ตาเรารับไหวดูครับ

พูดถึงข้อดีแล้ว คราวนี้มาดูข้อเสียบ้าง
ข้อเสียที่ชัดๆ คือความไม่สบายเมื่อใส่ เพราะเราต้องรัดแถบข้างหลังให้แน่นเพื่อให้ให้
แว่นตาไม่ตกลงมา คือพอรัดแน่น มันจะดันตรงหน้าผากเราจนเจ็บ ยิ่งใส่นานเท่าไหร่ก็
ยิ่งเจ็บเท่านั้น
อีกอย่างคือหาจุดที่สบาย + พอดีกับโฟกัสของเรายากพอควร เมื่อได้โฟกัสแล้วเราก็ต้อง
รัดสายให้แน่นเพื่อให้แว่นไม่หล่นลงมา ก็ทำให้เจ็บหน้าผาก
ข้อเสียอีกข้อ ก็เรื่องแผ่นบล็อคแสง ถ้าเราติดที่บล็อคแสงแล้ว ถ้าไม่เปิดแอร่เล่น ร้อนหน้า
และอึดอัด

ผมใช้ไป 2-3 อาทิตย์แรกปรับไปปรับมา ตลอดจนในที่สุด ตอนนี้ใส่ได้สบายแล้ว 
แต่ต้องโมกันนิดหน่อย ตามรูปเลยครับ


อาจจะน่าเกลียดแต่ ใส่แล้วสบายก็ ok ครับ

ทำหูเกี่ยวกับที่ดันหน้าผากไว้







โค้งรองรับหัวด้วยฟองน้ำนิ่มๆ











แล้วยัดแผ่นฟองน้ำหนาๆ เข้าไปตรงบริเวณ
หน้าผาก

ดัดลวดให้โค้งรับหัวด้านบนจรดลงที่หน้าผาก ตัวฟองน้ำจะได้โค้งรับกับหน้าผากเรา








ทำแค่นี้ ตอนนี้ก็ใส่สบาย แล้วครับ
ผมว่าใช้ HMZ-T2 นี่ต้องให้เวลาอยู่กับมันดูครับ ปรับนู่นปรับนี่หน่อยให้พอดีกับหัวของเรา
พอปรับได้และใส่สบายแล้วท่านก็จะพบกับโรงหนังส่วนตัว ที่ให้ภาพดียิ่งกว่า ledtv อีกครับ


มีข้อดีอีกข้อครับ คือมันประหยัดไฟสุดๆ แค่เพียง 15watt เท่านั้น

สำหรับคนใส่แว่นตา ผมเองก็ใส่แว่นเหมือนกัน ลองปรับตัวที่ลองหน้าผากออกมาให้สุดดูครับ จะทำให้แว่นเราไม่ไปชนกับ กับเลนส์ของ HMZ-T2 หรือจะชนก็ชนนิดเดียวครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับทรงหน้าเรา และ วิธีการปรับ สายรัดด้วยครับ

อ่ออย่าลืมหาแผ่น blu-ray calibration มา ปรับภาพอีกหน่อยครับ
จะได้ภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม ดำเป็นดำ ขาวเป็นขาว สีสันสวยงามกว่าที่ไม่ได้ปรับอีกครับ



สนใจ Sony HMZ-T2 
ติดต่อคุณ vorsss จาก เวปdvdgameonline 
LINE : vorsss 

โทร 085-995-6444

หรือ mail : kikydelivery@gmail.com